หลังจากที่คุมทีมชาติ เยอรมัน มีผลงานที่ยอดเยี่ยม จนจอนนี้เป็นทีมแรกที่ได้การันตีเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ของศึก ยูโร 2024 แล้วนั้น ทางสหพันธ์ฟุตบอล เยอรมัน เองนั้นก็ได้ตกลงขยายสัญญากับกุนซือทีมชาติอย่าง ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ ออกไปจนถึงหลังจบฟุตบอลโลกปี 2026 แล้วด้วย ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

เยอรมัน ยืดสัญญา นาเกิลส์มันน์ จนจบบอลโลก 2026

ทาง สหพันธ์ฟุตบอล เยอรมัน หรือ เดเอฟเบ ได้ออกมาแถลงแล้วว่า ได้จัดารเรื่องสัญญของทาง ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ เทรนเนอร์ของทีมชาติออกไปแล้ว เนื่องจากว่าสามารถทำตามข้อตกลงเบื้องต้นที่ว่าจะต้องพาทีมนั้นเข้าสู่รอบน็อกเอ้าท์ศึก ยูโร 2024 ให้ได้เป็นอย่างน้อย จึงจะได้สัญญาใหม่ ซึ่งเวลานี้เจ้าตัวนั้นก็พาทีมนั้น เก็บชัยชนะได้ 2 แมตช์รวด ทำให้ทัพ อินทรีเหล็ก นั้นการันตีการเข้ารอบน็อกเอ้าท์ไปแล้ว จึงได้มีการขยายสัญญากันเกิดขึ้น

นาเกิลส์มันน์ เป็นกุนซือที่ว่างงานอยู่ในตอนที่ เยอรมัน นั้นติดต่อให้เข้ามารับงงาคุมทีมแทนที่ของทาง ฮันซี่ ฟลิค ที่เวลานั้นคุมทีมมีผลวานแย่มากๆ ซึ่ง นาเกิลสืมันน์ ก็เข้ามารับงานและคุมทีมลงเล่นในเกมอุนเครื่องมาตลอด เพราะว่าเป็นเจ้าภาพเลยไม่ต้องเล่นรอบคัดเลือกด้วย ถึงอย่างไร เมื่อเปิดสนามมาก็ทำให้รู้เลยว่า เยอรมัน ของ นาเกิลส์มันน์ นั้นเล่นดีแค่ไหน

โดยนักเตะที่โชว์ฟอร์มเด่นของ เยอรมัน นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่เป็นทาง โทนี่ โครส มิดฟิลด์ตัวเก๋าวัย 33 ปี ที่ทั้งสองเกมที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวเล่นในตำแหน่ง ดีฟฟลาย มิดฟิลด์ คือ มิดฟิลด์ตัวต่ำที่คอยสร้างจังหวะและกำหนดจังหวะการเล่นของทีมด้วย การถอย โครส ลงมานั้นทำให้เจ้าตัวนั้นมีเวลาที่จะเลือกจ่ายบอลให้ได้เปรียบมากขึ้น อีกทั้งลูกแทงช่องที่เป็นทีเด็ดนั้น ก็ส่งผลให้เกมรุกนั้นเข้าทำได้รวดเร็วมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาจ่ายบอลเยอะ

ส่วนดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นมาในยุคของทาง นาเกิลส์มันน์ อย่าง ฟลอเรียน เวิร์ทซ์ และ จามาล มูเซียลา ก็เป็นสองนักเตะที่ถูกส่งลงเล่นในตำแหน่ง 11 ตัวจริง ทั้งสองเกม ซึ่งทั้งสองคนนั้นสามารถทำหน้าที่ได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ มูเซียลา ที่เล่นได้โดดเด่นกระชากกินตัว สร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์ให้เพื่อน ส่วนทาง เวิร์ทซ์ เองนั้นก็มีความเข้าใจเกมที่ยอดเยี่ยม เล่นกับทาง กุนโดกัน ตัวเก๋าอีกคนของทีมได้อย่างเนียนตาเลยทีเดียว

เชื่อเยว่า นาเกิลส์มันน์ น่าจะพาทัพ อินทรีเหล็ก ไปได้ไกลแน่นอนในทัวร์นาเม้นท์นี้ เพราะนักเตะทั้งทีมนั้นมีความเข้าใจในระบบของการเล่นที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่ารวมไปถึงทัวร์นาเม้นท์ที่รออยู่อย่างบอลโลกรอบคัดเลือกที่จะเตะกันในช่วง หลังจากจบฟุตบอลยูโรไปแล้วด้วย 

มาร์โก รอสซี่ กุนซือ ฮังการี ยัวะเฉ่งเปายับ

มาร์โก รอสซี่ กุนซือของทีมชาติ ฮังการี ออกมาให้สัภาษณ์กับสื่อหลังจากที่เจอกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมที่ทีมของเขานั้นแพ้ให้กับ เยอรมน เจ้าภาพไป 2-0 ว่า เป็นการตัดสินที่ไม่มีความยุติธรรมเอาซะเลย ทีมของเขานั้นควรจะได้ฟาวล์จากจังหวะที่เสียประตูแกร แต่ทั้งกรรมการในสนามและกรรมการในห้อง VAR นั้นกลับเฉยกับเหตุการณ์นี้ แต่พอมาเป็นทาง เยอรมัน โดนบ้างกลับเป่าให้ฟาวล์แบบหน้าตาเฉย

ในจังหวะที่เสียประตูแรกของทาง ฮังการี นั้นทาง วิลมอส ออร์บาน ผู้เล่นของทาง ฮังการี โดนทาง อิลคสย กุนโดกัน กัปตันทีมชาติ เยอรมัน นั้นกระแทกเข้าข้างหลัง ต่กรรมการกลับเฉยปฃ่อยให้เล่นต่อ จนทีมนั้นเสียประตู ซึ่งหลังจากน้ันทางห้อง VAR ก็เช็กแล้วและก็ปล่อยให้เป็นประตูเช่นกัน ซึ่งตรงนี้หลังจากที่ดูภาพช้านั้น มันเป็นการปะทะแบบไหล่ต่อไหล่ที่ ออร์บาน นั้นล้มลงไป ทำให้ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์

ถึงอย่างไรก้ตามทีในช่วงครึ่งหลังนั้น ทางผู้เล่น ฮังการี เองก็ไปปะทะใส่ โรเบิร์ต อันดริช ผู้เล่น เยอรมัน ในลักษณะเดียวกัน แต่ทว่าทางกรรมการเองนั้นก็ได้เป่าฟาวล์ให้ ทำให้ทาง รอสซี่ ออกมาโวยหลังเกมเลยทีเดียว จากการแพ้ในนัดนี้นั้นทำให้ ฮังการี ตกที่นั่งลำบากสุดๆ เพราะว่าต้องเอาชนะให้ได้ในนัดสุดท้าย แถมยังต้องลุ้นในสายอื่นๆอีกด้วย

โดยเกมสุดท้าย ฮังการี จะจเอกับ สกอตแลนด์ ที่มี 1 คะแนน ทำให้ทั้งสองทีมนั้นต้องใส่กันเต็มตัวเพื่อจะเอาชนะในนัดนี้กันให้ได้ ซึ่งถ้า ฮังการี มีสามคะแนนได้นั้น ก็อาจจะมีลุ้นเข้ารอบอยู่ด้วย เพราะว่าทัวร์นาเม้นท์นี้เอาที่สามที่ดีที่สุด 4 จาก 6 ทีม เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปนั่นเอง ส่วนถ้า สกอตแลนด์ ชนะได้รนั้น ก็มีโอกาสที่จะเข้ารอบได้สูงมาก เพราะว่าจะมี 4 คะแนน นั่นเอง